รถบังคับวิทยุ

ส่วนประกอบพื้นฐานของรถบังคับวิทยุ
พื้นฐานการบังคับด้วยวิทยุ มีลักษณะเหมือนกัน โดยแยกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆดังนี้
เครื่องส่ง ควบคุมด้วยมือ มีหน้าที่ส่งคลื่นวิทยุไปที่เครื่องรับ
เครื่องรับ ประกอบด้วยเสาอากาศ และแผงวงจรไฟฟ้า เพื่อคอยรับสัญญาณส่งจากเครื่องส่ง และกระตุ้นให้มอเตอร์ภายในเครื่องเล่นทำงาน
มอเตอร์ไฟฟ้า ทำหน้าที่หมุนล้อ และเลี้ยว สำหรับรถ แต่ถ้าเป็นเรือ เปลี่ยนเป็นไบพัด
แหล่งจ่ายพลังงาน คือแบตเตอรี่ หรือถ่านไฟฉาย

เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ
เครื่องส่ง ทำหน้าที่ส่งรหัสสัญญาณไปที่เครื่องรับโดยใช้คลื่นวิทยุ เพื่อทำความเข้าใจรหัสนี้ เราจะพูดกันในหน้าถัดไป









เครื่องส่ง
เครื่องเล่นวิทยุ โดยเฉพาะเครื่องส่งออกแบบให้เหมาะแก่การจับด้วยมือ มีปุ่มควบคุมที่ง่ายแก่การใช้ ภายในเครื่องส่งมีแหล่งจ่ายพลังงาน ปกติใช้แบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ ความแตกต่างระหว่างเครื่องควบคุมด้วยวิทยุ กับรีโมทคอนโทรล คือเครื่องเล่นที่ใช้รีโมทคอนโทรล มีสายต่อระหว่างตัวรีโมทกับเครื่องเล่น ขณะที่เครื่องเล่นวิทยุ ไม่ต้องใช้สายไฟ
รูปร่างของเครื่องส่งอีกแบบหนึ่ง
เครื่องเล่นบังคับวิทยุ ทำงานที่ความถี่ 27 เมกะเฮิรตซ์ หรือ 49 เมกะเฮิรตซ์ ถูกกำหนดโดยสถาบัน FCC ที่เป็นหน่วยงานที่จัดขึ้นมาเพื่อจัดสรรความถี่วิทยุ
เครื่องเล่นส่วนใหญ่ มีป้ายติดบอกความถี่ที่ใช้ไว้ที่กล่อง หรือที่เครื่องเล่น ยกตัวอย่าง รูปล่าง
รถทำงานที่ความถี่ 27 เมกะเฮิรตซ์
ผู้ผลิตเลือกความถี่ของเครื่องเล่นในรุ่นนั้นๆ ว่าควรจะใช้ความถี่ใด เพื่อไม่ให้ความถี่ซ้ำซ้อนกัน อย่างไรก็ตามแม้เป็นเครื่องรุ่นเดียวกัน คุณสามารถเล่นเครื่องเล่นที่เดียวกันได้พร้อมกัน โดยความถี่ไม่ซ้ำซ้อนกัน โดยที่ผู้ผลิตบางแห่งออกแบบเป็นช่วงความถี่ สามารถใช้ได้กับรถแข่งจำนวน 6 คัน ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ และจัดช่วงความถี่ให้เหมาะสม
เครื่องเล่นบางรุ่น ที่ตัวควบคุมมีอยู่ปุ่มเดียว ควบคุมได้ทุกอย่าง เวลากดปุ่มให้รถวิ่งไปข้างหน้า แต่เวลาปล่อยปุ่ม รถจะวิ่งถอยหลัง ซึ่งควบคุมยากอยู่เหมือนกันเวลาจะเลี้ยวซ้ายและขวา จึงไม่ค่อยนิยม
ส่วนพวกที่มีหลายปุ่ม แต่ละปุ่มมีส่วนควบคุมใหญ่ๆดังนี้
ไปหน้า
ถอยหลัง
ไปหน้าซ้าย
ไปหน้าขวา
ถอยหลังซ้าย
ถอยหลังขวา

วิทยุควบคุม
กลับไปดูรถปิกอัพบังคับวิทยุที่เคยเกริ่นนำมาบ้างแล้ว ใช้ความถี่ที่ 27.9 เมกะเฮิรตซ์ ลำดับขั้นตอนต่อไปนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณกดเครื่องส่งบังคับวิทยุ
1. กดปุ่มให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
2. วงจรไฟฟ้าภายในได้รับการต่อกัน ทำให้เกิดสํญญาณทางไฟฟ้า วิ่งไปที่ขาของวงจรรวมของเครื่องส่ง
3. เครื่องส่ง กำเนิดสัญญาณวิทยุ เป็นกระบวนลูกคลื่นไปที่เครื่องรับที่อยู่บนเครื่องเล่น
กระบวนลูกคลื่นแรก บอกให้เครื่องรับ เตรียมตัวรับข้อมูล กระบวนนี้มีลูกคลื่น 4 ลูก แต่ละลูกกว้าง 2.1 มิลลิวินาที ( 1 มิลลิวินาที = 1/ 1000 วินาที) มีช่องว่างระหว่างลูกคลื่น 700 ไมโครวินาที (1 ไมโครวินาที = 1 ใน ล้านของวินาที) ถัดไปทางขวาเป็นกระบวนลูกคลื่นข้อมูล ลูกคลื่นแต่ละลูกกว้าง 700 ไมโครวินาที แต่ละลูกห่างกัน 700 ไมโครวินาที
กระบวนของลูกคลื่น
ต่อไปนี้เป็นกระบวนลูกคลื่นควบคุมว่าจำนวนของลูกคลื่นกี่ลูก และบังคับให้เครื่องเล่นเคลื่อนที่ในลักษณะใด
ไปข้างหน้า 16 ลูก
ถอยหลัง 40 ลูก
หน้าซ้าย 28 ลูก
หน้าขวา 34 ลูก
หลังซ้าย 32 ลูก
หลังขวา 46 ลูก
4. เครื่องส่งเมื่อได้รับคำสั่งจากปุ่มบังคับ มันจะส่งสัญญาณวิทยุที่ความถี่ 27,900,000 รอบต่อวินาที (27.9 เมกะเฮิรตซ์)
5. เมื่อรถปิกอัพได้รับสัญญาณความถี่ 27.9 เมกะเฮิรตซ์ มันจะส่งผ่านสัญญาณไปที่ภาคกรองสัญญาณ สัญญาณที่เหลือจากเครื่องกรองเป็นกระบวนของคำสั่ง
6. กระบวนลูกคลื่นคำสั่ง ส่งไปที่วงจรรวม ที่อยู่ภายในแผงวงจรไฟฟ้าของรถบรรทุก ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไปควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่น กระบวนลูกคลื่น 16 ลูก (ไปข้างหน้า) จะทำให้ วงจรรวมส่งกระแสไฟฟ้าที่เป็นบวกไปยังมอเตอร์ เพื่อหมุนล้อ ถ้ากระบวนคลื่นถัดไปเป็น 40 ลูก ซึ่งเกิดจากผู้เล่น กดปุ่มถอยหลัง วงจรรวมจะกลับกระแส ไฟฟ้ามีทิศทางเป็นลบไปที่มอเตอร์ ตัวเดียวกัน และทำให้มอเตอร์หมุนถอยหลัง
7. เพลาของมอเตอร์ต่อเข้ากับเฟืองเกียร์ เพื่อทดความเร็วให้ลดลงก่อนจะไปขับล้อ และเพิ่มแรงบิดให้กับล้อ ทำให้รถมีแรงบิดมากพอที่จะขับเคลื่อน แม้มอเตอร์จะมีขนาดเล็กก็ตาม
8. รถเคลื่อนไปข้างหน้า ตามคำสั่งแรก และถอยหลังตามคำสั่งที่สอง
ถ้าคุณแกะรถส่วนบนออก และมองดู

ภายในรถบรรทุก
มีมอเตอร์อีกตัวหนึ่งอยู่ที่ล้อหน้า มีหน้าที่บิดล้อไปทางซ้ายหรือขวา ขณะที่อีกตัวหนึ่งทำหน้าที่หมุนล้อหลัง ทำให้เคลื่อนที่ไปหน้า หรือถอยหลัง แผงวงจรไฟฟ้าประกอบด้วย วงจรรวม วงจรขยาย และตัวรับสัญญาณวิทยุ มีเฟืองเกียร์ต่ออยู่ระหว่างมอเตอร์กับล้อ นอกนั้นไม่มีอุปกรณ์ที่ซํบซ้อน

กายวิภาคของรถบังคับวิทยุ
ภายในตัวรถ ประกอบด้วย โครงรถ ซึ่งยึดส่วนประกอบทางกลทั้งหมด และ วงจรไฟฟ้า การจัดวางตำแหน่งขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ
แผงวงจรไฟฟ้า ประกอบด้วยตัวเก็บประจุ ตัวต้านทาน และไดโอด
มอเตอร์ไฟฟ้า ได้รับกำลังจากแบตเตอรี่ สำหร้บใช้ในการขับเคลื่อนและบังคับเลี้ยว


ภาพแผนวงจรไฟฟ้าของรถบังคับวิทยุ